แมนฯ ซิตี้
เรือใบแพ้ให้กับ วูล์ฟส์ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ไปเมื่อเดือนตุลาคม โดยพวกเขาไม่เคยพ่ายเกมเหย้าในพรีเมียร์ลีกมากกว่า 1 นัดภายในซีซั่นเดียวภายใต้การคุมทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
สำหรับเกมนี้ กุนซือชาวสแปนิชจะได้ อิลคาย กุนโดกัน กลับมาเป็นตัวเลือกได้อีกครั้ง หลังจากพ้นโทษแบนแล้ว
อย่างไรก็ตาม เซร์คิโอ อเกวโร่ ยังคงชวดเหมือนเดิมเนื่องจากเจ็บต้นขา ส่วนพวกที่เดี้ยงอยู่ก่อนหน้าแล้วอย่าง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, เอมเมอริก ลาปอร์กต์ และ ลีรอย ซาเน่ อยู่ในช่วงพักรักษาตัว
แมนฯ ยูไนเต็ด
ผีแดงไร้พ่ายมาตลอด 4 นัดหลังสุดในลีก ซึ่งนี่คือเป็นผลงานไม่แพ้ติดต่อกันยาวนานที่สุดของพวกเขาในซีซั่นนี้ (ชนะ 2 เสมอ 2) ทว่าก็มีสถิติชนะแค่เกมเดียวจาก 11 นัดเยือนหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 4 แพ้ 6)
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์เวย์มีลุ้นได้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง หลังมีอาการบาดเจ็บจนไม่มีชื่อในเกมเอาชนะ สเปอร์ส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ในรายของ ปอล ป็อกบา ที่หายหน้าไปนานแล้วจากปัญหาที่ข้อเท้าก็เตรียมที่จะชวดช่วยทีมต่อเนื่อง ขณะที่ เนมานย่า มาติช และ มาร์กอส โรโฮ ก็น่าจะลงเล่นไม่ได้เช่นเดียวกัน
11 ตัวจริงตามคาด
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฟร์นันดินโญ่, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ – เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – อารอน วาน บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, แอชลี่ย์ ยัง – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด – ดาเนียล เจมส์, เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อองโตนี่ มาร์กซิยาล
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
เกร็ดน่าสนใจ
– แมนฯ ซิตี้ มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ตลอด 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– แมนฯ ยูไนเต็ด มีสกอร์รวมสูงกว่า 2.5 ตลอด 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– แมนฯ ซิตี้ ยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูต่อเกมตลอด 4 นัดหลังสุดที่พบ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมทุกรายการ
– แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูต่อเกมตลอด 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
– แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ชนะถึง 10 จาก 11 นัดเยือนหลังสุดในพรีเมียร์ลีก